เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ. จะนะ ควรได้ไปต่อหรือไม่?
ในพ.ค. 2562 คณะรัฐมนตรีลงความเห็นเห็นด้วยในแนวทางการขยายผลแผนการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง รวย ยืนยง” ไปสู่ เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมเจริญก้าวหน้าที่อนาคต” นำมาซึ่งการทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวพัน อย่างเช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย บีโอไอ ที่ทำการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและก็สังคมแห่งชาติ สมช. มีข้อความสำคัญที่จะจำต้องทำงาน ยกตัวอย่างเช่น กระทรวงการคลังประกาศให้พื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนแล้วก็เขตปราศจากอากร
และก็ปฏิบัติงานปรับปรุงพื้นที่ศุลกากรเป็นระบบ ตลอดจน ภาคเอกชนที่มีแผนการงานโครงงาน อย่างเช่น การพัฒนาท่าเรือจังหวัดสงขลาแห่งที่ 2 เป็นท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสงขลาแห่งที่ 2 การวางเป้าหมายแล้วก็ลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้ากำลังไฟฟ้าโอกาส รวมทั้งการก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ศึกษาวิจัยผลพวงทางสภาพแวดล้อม หรือผลพวงทางสภาพแวดล้อมรวมทั้งสุขภาพ
การจัดการดังที่กล่าวมาข้างต้นนำมาซึ่งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการต้านทานจากสามัญชนในพื้นที่ เนื่องจากว่า การลงความเห็นเห็นดีเห็นชอบในแนวทางให้เดินหน้าโครงงาน ไม่มีการเรียนรู้ผลตอบแทนแล้วก็ทุนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และก็สภาพแวดล้อมอย่างแม่นยำ ตลอดจน ขั้นตอนมีส่วนร่วมของราษฎรในแคว้นอย่างแท้จริง
คนเขียนพบว่า การเดินหน้าแผนการดังที่กล่าวมาแล้วมีปริศนาสำคัญที่ยังไม่มีคำตอบแจ้งชัดและไม่ได้มีหลักฐานเกื้อหนุนที่แจ้งชัด1 ยกตัวอย่างเช่น ผลตอบแทนของแผนการต่อการจ้างแรงงานทั้งหมดทั้งปวงเป็นยังไง โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติบตำบล) บอกว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมรายใหญ่ราวๆ 50 ราย จะมีผลให้มีการว่าจ้างโดยตรงโดยประมาณ 25,000 ตำแหน่ง แต่ว่าการวัดผลกระทบที่จริงจริงจำเป็นต้องพิจารณาอีกทั้งผลพวงทางบวกรวมทั้งทางลบที่บางทีอาจเกิดขึ้นด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่ง โครงงานจะก่อให้กำเนิดตำแหน่งงานมากขึ้นรวมทั้งน้อยลงกี่ตำแหน่ง รวมทั้ง การลงทุนของแผนการจะช่วยต่อยอดและก็เพิ่มค่าให้แก่เศรษฐกิจเขตแดนยังไง พูดอีกนัยหนึ่ง ท่าเรือน้ำลึกจังหวัดสงขลาแห่งที่ 2 โรงไฟฟ้ากำลังไฟฟ้าหนทาง รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมจะนะ มีการเชื่อมโยงรวมทั้งช่วยยกฐานะเศรษฐกิจเขตแดนเช่นไร
เพื่อหาทางออกแล้วก็จัดการกับปัญหาความไม่ลงรอยกันระหว่างเมืองรวมทั้งพสกนิกรในแคว้นที่ได้รับผลพวงทางลบจากแผนการดังที่กล่าวถึงแล้ว คณะรัฐมนตรีควรจะตรึกตรองทวนความเห็นชอบ “เห็นด้วย” การเดินหน้าโครงงาน โดยให้เรียนวัดผลกระทบโครงงานอีกทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งสภาพแวดล้อม ที่มีความสมบูรณ์รวมทั้งรอบด้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์หรือข้อมูลส่งเสริมที่เด่นชัดประกอบกิจการตกลงใจ ก่อนจะพินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนว่า ควรจะให้ดำเนินโครงงานดังที่กล่าวถึงมาแล้วถัดไปไหม
เหตุผลสำคัญที่ควรจะมีการศึกษาเล่าเรียนผลพวงแผนการอีกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และก็สภาพแวดล้อม ก่อนเดินหน้าโครงงานถัดไป ด้วยเหตุว่า
ประการแรก เพื่อประเมินทั้งยังผลพวงที่พึงพอใจและไม่ประสงค์ที่จะเกิดขึ้นของแผนการ
ประการลำดับที่สอง ปรับแก้ความโล่งใสของการดำเนินแผนการ เพื่อแผนการกำเนิดความยืนยง แล้วก็คุ้มครองการใช้คุณประโยชน์ในทางไม่ดีของกลุ่มผลประโยชน์
ประการลำดับที่สาม เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชากรในแคว้นอย่างแท้จริง เพื่อรับทราบข้อควรไตร่ตรองที่นานัปการและก็ครบ รวมทั้งเพื่อโครงงานมีความเป็นธรรม
ประการท้ายที่สุด เพื่อกำหนดให้กระจ่างว่า แผนการดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจะบรรลุเป้าหมายได้เช่นไร รวมทั้งมีการระบุตัวชี้วัดที่แจ้งชัดในแต่ละขณะ
โดยสรุป เขตปรับปรุงพิเศษเฉพาะกิจ อำเภอ จะนะ จังหวัด จังหวัดสงขลา ควรจะได้ไปต่อหรือเปล่า? การตัดสินใจเชิงแนวนโยบายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ควรจะขึ้นกับเหตุผลเชิงประจักษ์แล้วก็ข้อมูลที่ได้รับมาจากการเรียนผลพวงแผนการทั้งยังทางเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งสภาพแวดล้อมอย่างแม่นยำ ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของพลเมืองในเขตแดนอย่างแท้จริง เนื่องด้วย การพัฒนาเชิงพื้นที่เป็นข้อความสำคัญที่สลับซับซ้อนรวมทั้งควรมีความรู้ความเข้าใจบริบทเชิงพื้นที่อย่างแม่นยำและก็รอบด้าน ซึ่งพสกนิกรในแคว้นจะเข้าใจดีที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นและก็แนวทางในการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลิตภาพรวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการแข่งของเขตแดน
นอกเหนือจากนั้น ภาครัฐควรจะแสดงความบริสุทธิ์ใจและก็สร้างความโปร่งสบายใสของโครงงาน โดยกำหนดให้มีตัวแทนจากทั้งยังฝ่ายสนับสนุน ข้างต้าน รวมทั้งสาขาวิชาการ เข้ามาเป็นคณะทำงานศึกษาเล่าเรียนผลพวงแผนการทั้งยังทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และก็สภาพแวดล้อมเพื่อมีการฟังข้อคิดเห็นอย่างรอบด้านรวมทั้งเป็นกลางให้สูงที่สุด